Sunday, May 1, 2016

หนังสือเตรียมสอบเข้าป.1 , สอบเข้าสาธิต , พัฒนาฒนาเด็ก 2017

สอบเข้าป.1   สอบเข้าสาธิต                                   ข้อสอบสาธิต  ป.1



สอบเข้าป.1  สอบเข้าสาธิต  ข้อสอบสาธิต ป.1 หนังสือเตรียมสอบเข้าป.1  หนังสือพัฒนาเด็ก 


 หนังงสือเตรียมสอบเข้าป.1

สอบเข้าป.1 , สอบเข้าสาธิต

https://www.facebook.com/หนังสือเตรียมสอบเข้าป.1


3 องค์ประกอบ การพัฒนา - พัฒนาการลูกน้อย ตั้งแต่แรกเกิด ถึง 6 ปี 6 เดือน

สอบเข้าป.1 สอบเข้าสาธิต โรงเรียนประถม อนุบาล พัฒนาการเด็ก
3 องค์ประกอบ การพัฒนา - พัฒนาการลูกน้อย ตั้งแต่แรกเกิด ถึง 6 ปี 6 เดือน


แด่คุณพ่อคุณแม่ เพื่อลูกน้อย  เพื่อโลกที่สวยงาม
การสอน ลูกน้อยในวัยก่อนเรียน
วัยก่อนเรียน คือ ตั้งแต่ แรกเกิด ถึง อายุ  6 ปี 6เดือน )


ภายใน 
              คือ สิ่งที่เกี่ยวข้องกับ ลูกน้อยโดยตรง 
- กระบวนการคิด  การเรียงลำดับ การคิดตามลำดับขั้น ที่ คุณพ่อคุณแม่ ต้อง ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง  สอนให้ลุกน้อยทำ แล้ว ปล่อยในทำด้วยตนเองซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า 
- การช่วงเหลือตนเอง กิจวัตรประจำวัน เริ่มตั้งแต่ ตื่นนอน จนถึง นอนหลับ จบไปเป็นวันๆ ไป
- สภาวะทางอารมณ์  ยิ้ม หัวเราะ รัก เกลียด เศร้า ร้องไห้(การร้องไห้ ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ที่สำคัญ คือการปล่อยวาง การหยุดร้องไห้ได้ด้วยตนเอง)  เป็นต้น
- ร่างกายของลูกน้อย  ที่สามารถใช้อวัยวะทุกส่วนของร่างกายได้อย่างคล่องแคล่ว และสมบูรณ์แบบ ( เช่นการยืนทรงตัว บนไม้กระดานเป็นต้น   รวมถึงการใช้ได้อย่างละเอียดอ่อน เช่น การระบายสี โดยน้ำหนักสีเท่ากันทั้งรูป)


 
ภายนอก
              จะหมายถึง สิ่งที่แสดงออก  และ การพูดกับบุคคลภายนอก (รวมทั้งพ่อแม่ด้วย ที่ต้องบอกว่าภายนอก เพราะว่า เด็กในช่วงวัยนี้ จะมีการพูดคนเดียว เล่นคนอยู่บ้าง ในบางครั้ง นั่นเราเรียกว่า " จินตนาการ " ) ได้รับทราบถึงความต้องการ ความรู้สึก ความคิด ของลูกน้อย
        - การเข้าสังคม การวางตัว กับพ่อแม่ กับเพื่อน กับคนรู้จักทั่วไป และกับคนไม่รู้จัก รวมทั้งสัตว์ สิ่งของต่างๆ ด้วย ( เช่นการในความเคารพ ต่อ สิ่งมีชีวิต และสิ่งไม่มีชีวิต เป็นต้น)
          - การพูด  การคุย คือ การใช้ภาษา ที่จะต้องสามารถ ให้ชัดเจน และ บ่งบอกได้ถึงสิ่งที่คิด ที่ต้องการ ตรงตามวัตถุประสงค์ของ ลูกน้อย
        - การแสดงออก คือ กริยาท่าทางและการบอกบอกถึงความต้องการของตนเอง ต่อสิ่งต่างๆ และการตอบสนองต้องสิ่งต่างๆ รอบตัวเอง ภายใต้ จุดยืนและในความสามารถของต่อเอง ทั้งการตอบรับ และการปฏิเสธ และอื่นๆ



ความรู้ 
             คือสิ่งที่จะสามารถนำไปสร้างและก่อให้เกิดประโยชน์สำหรับตนเองและผู้อื่น
        - การอ่านออกเขียนได้  คือความเข้าใจ ในภาษต่างๆ ทั้งภาษาเขียน  ภาษาร่างกาย และ ภาษาจากรูปภาพต่างๆ
        - ศิลปะ  คือทั้งหมด การวาดรูป การระบายสี การร้องเพลง + ดนตรี การแสดงต่างๆ และอื่นๆ
                                 ทั้งนี้ รวมทักษะ ด้านกีฬาด้วย   ทั้งศิลปะ และกีฬา เป็นสิ่งที่ต้องรู้ และได้สัมผัส ได้ ทดลองทำเล่น ไปกับมันในทุกๆ อย่าง 
        - และที่สำคัญ การแยกแยะได้   ระหว่างเรื่องจริง กับ เรื่องไม่จริง  สิ่งที่มีจริง สิ่งที่ไม่มีจริง และ สิ่งที่อาจจะมีจริงได้ให้อนาคต
       
ถึงจะไม่ครบทุกเรื่องโดยละเอียด แต่ ทั้งหมดนี้ คือ สิ่งที่ลูกน้อย ของคุณ ควร และจะต้องรู้   ไม่ใช่ ให้รู้เท่าที่คุณรู้ หรือ รู้เท่าที่เราคิดว่า แค่ควรรู้  ....

         และ โรงเรียน สำหรับลูกน้อย ในวันก่อนเรียน ( ตั้งแต่เกิด จน จบระดับอนุบาล)   ไม่สามารถ ให้ลูกคุณ ได้ทั้งหมด โรงเรียน จะเป็นเพียง สถานที่เปิดโลกให้กับลูกน้อยของคุณได้เพียง 30 %  เท่านั้น   ซึ่ง อีก 70 % อยู่ที่ตัวพ่อแม่  จะพัฒนาลูกได้  พัฒนากระบวนการคิดของคุณก่อน   ไม่ใช่เรื่องยากใช่ไหม ที่ สร้างลูกน้อยของคุณ อันเป็นที่รักที่สุด  ที่ได้ก่อกำเนิดจาก ความใสบริสุทธิ์ ( ศูนย์) จากความว่างเปล่า   ให้เต็มไปด้วยคุณภาพ 

คู่มือ เตรียมสอบเข้า ป. 1 หนังสือที่ให้มากกว่าที่คุณคิด 2

สอบสาธิต ข้อสอบสาธิต สอบเข้าป.1 โรงเรียนประถม โรงเรียนอนุบาล เนอสเซอรริ่ เด็กก่อนวัยเรียน  
คู่มือ ที่ให้มากกว่า เพียงแค่การสอบเข้า ป. 1

การใช้หนังสือเล่มนี้ ให้เกิดประโยชน์ สุงสุด 
ไม่ว่าลูกน้อยของคุณ ตอนนี้ จะอายุเท่าไหร่ 
ขอให้อ่านบทความนี้ ในทุกส่วน

                 หนังสือนี้  ถูกผลิตออกมาเป็นการรวมข้อสอบจากหลายๆ โรงเรียน.โดยเฉพาะโรงเรียน ชื่อดัง ในกทม.   ( มีเฉพาะที่นี่ที่เดียว  ) 
                           - แล้วนำมา จัด-แยก เป็นหมวดหมู่อย่างชัดเจน  
                           - และผนวกไปกับ แบบฝึกหัด พัฒนาไอคิว ไปด้วย 
            หนังสือเล่มนี้ ....ไม่ได้มุ่งให้เด็กๆ ...หัดทำเพื่อไปสอบเท่านั้้น......
     แต่มุ่งเน้น ที่ จะให้เด็กๆ เกิดการพัฒนา ไอคิว ได้อย่้างเต็มที่ 
             โดยที่เด็กๆ จะต้อง รู้จักการแยกหมวดหมู่ เป็นการแบ่งแยก หลักการคิด ในหลายๆ รูปแบบ ...โดยไม่สับสน ....... 
             ซึ่งจะ ส่งผล ไปยัง หลักการแก้ปัญหา  ให้เรื่่องต่างๆ ในทางตรง และทางอ้อม ไปพร้อมๆกัน
              เปรียบเสมือน   เด็ก ที่ สามารถ ผูกเชือกรองเท้าเองได้   ตั้งแต่ อ. 2    
                 ที่เป็นเช่นนั้น ...ไม่ใช่ เพียงแค่เด็ก จะจำ วิธีการ-ขั้นตอนการผูก เท่านั้น ...เด็กๆ จะเข้าใจไปถึง ว่า     
                ทำไม?  เชือก ถึง มัดได้โดยไม่หลุดออก
               ทำไม?    การผูกเชือกรองเท้า ต้องผูก เงื่อน หูกระต่าย(เงื่อนกระตุก) 
                              ซึ่งต่อไป ลูกน้อย จะเข้าใจได้ด้วยตัวเด็กๆ เอง .......... คู่มือ เตรียมสอบเข้า ป. 1 ชุด         คู่มือ เตรียมสอบเข้า ป. 1
           การใช้ประโยชน์ให้เกิดผลสูงสุดจาก
หนังสือเล่มนี้

  • ระดับ ชั้น  อ. 3  
  1.  สำหรับ เด็กๆ น้องๆ อนุบาล 3. เมื่อเรียนจบในชั้นอ.3 แล้วนั้น  ฝึกหัดเพื่อใช้ในการสอบ เข้า โรงเรียนอื่นๆ ในระดับชั้น ป. 1   ซึ่งจะไม่ต้องกังวล ว่า ข้อสอบนั้น จะเหมือนกับแบบฝึกหัดหรือไม่ เพราะ  เด็กๆ จะไม่ได้ ใช้วิธีการจำ แบบฝึกหัด เพื่อไปสอบ ...แต่ เด็กๆ จะเข้าใจ ว่า โจทย์ข้อสอบ นั้น ต้องการอะไร
  2.  ถึงแม้  เด็กๆ  จะไม่ได้ไปสอบแข่งขัน  แต่จะเป็น สิ่งที่เด็กๆ จะได้ เตรียมพร้อม สำหรับ การเรียน เพื่อที่ จะไป พัฒนา ไอคิวในระดับที่สูงขึ้น
  • ระดับ ชั้น อ. 2
  1.  ในระดับ ชั้นนี้ เมื่อเรียนจบในชั้นอ.2 แล้วนั้น มีบาง โรงเรียน ที่อนุญาต ให้สอบเข้าป. 1 ได้ เลย  เช่น  โรงเรียน สาธิตฯ เกษตร  , โรงเรียน สาธิตจุฬาฯ  และโรงเรียน สาธิตฯ มศว.ประสานมิตร เป็นต้น  
                
  2.   ในระดับ ชั้นนี้ น้องๆ ที่ได้รับการผึกฝน ตามแบบฝึกหัดมาแล้ว    จากคุณพ่อคุณแม่  จะสามารถ วิเคราะห์ ปัญหา ได้ ในมุมลึกมากขึ้น  ซึ่งจะเกิดคำถาม ที่คุณพ่อ คุณแม่ จะต้องแปลกใจ แต่ ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่า " ห้ามตอบว่าไม่รู้ "  และต้องตอบทุกคำถาม   หรือ ถ้าไม่ทราบจริงๆแล้ว ให้ ตอบไปว่า " คุณพ่อคุณแม่ จะไปเปิดหนังสือให้ดู หรือ ตอนเย็น จะบอกนะ "  แต่ อย่าปล่อยผ่าน คำถามไปนะ  เช่น  เงาของแมงมุมน้ำที่ยืนอยู่บนน้ำ  ทำไม ไม่มีสีเหมือนกับ ตัวจริง  ในมุมนี้  เด็กๆ เกิดจากการสังเกตุ และวิเคราะห์ ที่เรียกได้ว่า เป็น กระบวนการคิด ที่มากกว่า 1 ขั้น  เป็นต้น
  3.  และในระดับนี้ ในการทำแบบฝึกหัด  คุณพ่อคุณแม่ เพียงอ่านโจทย์ ให้ฟัง  จาก 3 รอบ ลดลง ตามลำดับ  จนถึง  ให้เด็กๆ เดา โจทย์เอง ว่า โจทย์นี้ "น่าจะถามว่า "อะไร "
  4. ในเด็กๆ ระดับนี้  ก็ยังคง  ที่คุณพ่อคุณแม่ ต้อง สอนในการทำ แบบฝึกหัด โดยใช้ของเล่น ของเด็กๆ สอนควบคู่ ไปกับ โจทย์ เพื่อให้เห็น ถึงภาพจริงๆ  

  • ระดับ ชั้น เตรียมอนุบาล และชั้น อ. 1

  1.  คงต้องเริ่มจาก ที่ ให้เด็กๆ เขียน เส้นตรง เส้นโค้ง เส้นคลื่นต่างๆ  ระบายสีรูปต่างๆ
  2.  และเลือก รูปภาพ จาก แบบฝึกหัดนั้น มา  หน้าใดก็ได้  ได้ ทุกหน้า ....และใช้กระดาษ ลอกลาย(กระดาษไข)  มาวางทับ เพื่อให้เด็กๆ ลากเส้นตาม  และระบายสี  ในช่องต่างๆของภาพในกระดาษไข นั้น   แต่ อย่าลืมที่จะเก็บ ภาพที่เด็กๆ ลอกลายไว้ ...เพื่อให้เด็กๆ ได้ดูการพัฒนาการ ของตนเอง ซึ่งจะสร้างความภูมิใจ ให้แก้เด็กเป็นอย่างมาก
  3.  ที่สำคัญ แบบฝึกหัดใน แต่ละบทนั้น คุณพ่อคุณแม่ ควรจะต้องเตรียมตัว ด้วยการอ่านเอง และทำความเข้าใจกับ โจทย์นั้นๆ ...และนำมาพัฒนา เป็นการเล่น การทดลอง  การสร้างสรรค์งาน เป็นกิจกรรม ในครอบครัว โดยใช้ ของเล่น หรือ อุปกรณ์อื่นๆ ตามความต้องการ ของเด็กๆ   และ ก็ควร เปลี่ยนหมวด ไป เรื่อยๆ  จน ครบ 48 หมวด 

  • ระดับ อายุก่อนเข้าโรงเรียน อายุ ตั้งแต่ 2 ปี ถึง 3ปี 6 เดือน     หนังสือเล่มนี้ จะเป็นคุณประโยชน์ สำหรับ คุณพ่อคุณแม่อย่างมาก ไม่ว่า 
  1. จะเป็นการมองเห็นเส้นทางในการสอนลูกน้อย  และ การเป็นการกำหนดเป้าหมาย ในการสอน ไม่ใช่เป็นการสอนเพื่อให้ไปสอบเข้า ป.1 เท่านั้น ยังเป็นเป้าหมาย ที่ จะให้คุณพ่อคุณแม่ มองเห็น หัวข้อเรื่อง ที่จะสั่งสอน อบรม ให้แก่ลูกน้อย  ที่จะอยู่นอกเหนือ จากโรงเรียน ที่ลูกน้อยจะต้องเข้าใจ และเรียนรู้ ในอนาคต
  2. และ เป็น คู่มือ ในการเลือกซื้อของเล่น ที่คุ้มค่าให้แก่ลูกน้อย  ซึ่งของเล่น นั้นๆ จะสามารถให้ลูกน้อยได้เล่น แล้ว ยังใช้ในการสอนได้ด้วย จน ไปถึงชั้น ป.1 ได้อีกด้วย 
                   ด้วยการจัดเตรียมหาซื้อของเล่นพัฒนาการต่างๆ หรือ จะประดิษฐ์เองก็ได้ และเมื่อมีของเล่น พัฒนาการ  แล้ว ....ในการสอน  เริ่มได้ตั้งแต่การให้ลูกน้อย จับ สัมผัส  กลิ้ง  โยน ต่อกัน หรือการตั้ง-การล้ม และ มุมมองต่างๆ ที่เด็กๆ สามารถ เล่นในรูปแบบของการทายปัญหา การเปรียบเทียบ การแข่งขันกันเล็กๆน้อย ..... และ .... เมื่อพ่อแม่ ได้ ศึกษา ลักษณะของโจทย์คำถามแล้ว เราก็หวังได้ว่า ... คุณพ่อคุณแม่ ...โดยส่วนใหญ่  จะเกมเล่นกับลูกน้อยได้ .....( แต่ถ้าสำหรับ ความไม่มั่นใจ ในการคิดเกมเล่น....สอบถามได้ ...inbox  มาได้ตลอดเวลา ) 


*********    เราหวังอย่างยิ่ง  หนังสือเล่มนี้ จะช่วยส่งเสริมให้ท่าน ได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ *********  
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ    คลิกที่นี่

10 ประโยค ที่ควรใช้พูดกับ ลูกน้อย

ติวป.1 เข้าป.1 สอบสาธิต โรงเรียนประถม โรงเรียนอนุบาล สถานรับเลี้ยงเด็ก 




10 ประโยค ที่ควรใช้พูดกับ ลูกน้อย 
                      10 ประโยค ที่ควรใช้พูดกับ ลูกน้อย 
๑,ไม่ต้องรีบทำ แต่เราจะไม่หยุดทำ  
๒.เขาคนนั้นก็มีข้อดีนะ ว่า....
๓.ไม่เป็นไร  ทางออก  ทางแก้ไข  มีเสมอ 
๔.ไม่เป็นไร อย่างนี่ ก็มีอยู่ทั่วไป
๕.คนเราแต๋ละคนไม่เหมือนกัน เราก็เป็นของเรา ดีแล้วแหล่ะ
๖.การถอยหลํง  การยอม การวิ่งหนี ไม่ใช่ สิ่งที่เรียกว่า  แพ้
๗.คำว่า แพ่ไม่มี  เพียงแต่เรายังทำ สิ่งนั้นยังไม่เสร็จ
๘.ทำสิ่งที่ต้องทำ ของเราให้เสร็จซะก่อน ก่อนที่จะไปทำอย่างอื่นต่อไป
๙.นอกจาก จะเป็นแบบ นั้น จะเป็นอย่างอื่นอีกได้ไหม
๑๐. คุณพ่อ คุณแม่ คิดว่า  เป็นแบบนี่นะ แล้วลูกคิดว่า มันควรจะเป็นอย่างไร

   ๑. พ/ม จะเจอสถานการณ์ นี้เสมอ  ลูกอมข้าว อาบน้ำไปเล่นไป  ประโยคนี้ จะช่วยให้ลูกน้อยมองเห็น ความสำคัญ ของสิ่งที่จะต้องทำ

   ๒. ไม่ว่าคนนั้นจะ ทำดีกับเราหรือไม่ก็ตาม เราจะชอบหรือไม่ชอบก็ตาม ลูกน้อย จะมองหาส่วนที่ดีของคนนั้นได้เสมอเมื่อเติบใหญ่ จะเป็น การสร้าง สภาวะผู้นำให้แก่ลูกน้อย

   ๓. ไม่ว่า จะเกิดเหตุ อะไรขึ้น  หกล้ม ลูกน้อยก็จะร้องไห้ เพียงช่วงแรกเท่านั้น  เพราะแผลที่เกิดขึ้นไม่นานก็จะหายไป ลูกน้อยจะเป็น นักแก้ปัญหาทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นในชีวิต ของตนเอง และผู้อื่นได้ด้วย

   ๔. ไม่ว่าจะออกไปพบเห็น สถานะการณ์ใดๆ ลูกน้อยจะเข้าใจจะมองปัญหาเหล่านั้นอย่างเข้าใจ และ มองเห็นทางออก หรือสิ่งที๋ตนจะต้องกระทำได้ด้วยตนเอง

  ๕. เมื่อลูกน้อยได้พบกับ บุคคลหลากหลาย ลักษณะ  เด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ คนชรา ชาย หญิง เพศที่สาม  รวมถึงการแสดงออกของคนอื่น ทั้งดีและไม่ดี ลูกน้อย ก็จะมองอย่างเข้าใจ และให้อภัย เสมอ  ซึ่งจะส่งผลให้ ลูกน้อย เติบโตไปอย่างแข็งแกร่ง ไม่โอนอ่อน ไปทางสังคมนั้นๆ เช่น อยู่ในสังคม ที่มีเพศ ก็จะไม่เบี่ยงเฐนทางเพศตาม

  ๖. ทุกปัญหา มีทางแก้  แต่ก็ไม่ใช่ ทุกปัญหาที่จะแก้ได้ในทันที  การเดินหนี ออกจากปัญหานั้นๆ ก็ไม่ใช่ ทางที่เราจะเลือกไม่ได้ จะเป็นภูมิคุ้มกันอย่างดี อย่างหนึ่ง ในอนาคต เมื่อลุกน้อยจะต้องตกอยู่ในสถานะการณ์ ที่ เลวร้าย

๗. กว่าจะเติบใหญ่  จนมีหัวใจ ที่แข็งแกร่ง ลูกน้อยก็จะต้อง มีคำว่า ผิดหวัง มากกว่า คำว่า สมหวัง เมื่ออยู่ในสนามการแข่งขันใดๆก็ตาม  ซึ่งเมื่อไม่สำเร็จในวันนี้ นั่นคือวันหนึ่ง ที่ เราจะได้รู้ว่า เรายังไม่ได้ทำอะไร ยังไม่รู้เร์่องใด  ลูกน้อยจะมองหาทางแก้ไข และพัฒนาตัวได้ด้วยตนเอง

   ๘. การทำกิจการ งานใด จะต้องทำให้เสร็จเป็นอย่างๆไป ซึ่งในชีวิต เราเองก็จะถูกกำหนด ให้ทำหลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน

  ๙. นอกจากสิ่งที่เห็น ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง ซึ่งไม่ได้เห็นทั้งหมด  สิ่งที่เห็นอาจจะไม่ใช่เรื่อง ในความเป็นจริงเสมอไป  การพินิจพิเคราะห์  สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น ก่อนหน้านั้น และ การกระทำนั้นๆ จะส่งผล ที่ต่างออกไป จากที่เราคิด ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้น  การคิด การคาดการณ์ จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับลูกน้อยในการเรียนรู้  การมอง การคิด ในหลายๆ ด้าน จะช่วยให้ลูกน้อย เป็นคนรอบคอบ ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง ในอนาคต
  ๑๐. การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น จะนำมาซึ่งความเข้าใจ ตนเองและผู้อื่น



พัฒนาการลูกน้อย เริ่มด้วยมือคุณเอง  มีต่อ

หนึ่งนาที ของลูกน้อย ใน กำมือคุณ

กว่าจะอายุ 9 ปี
ระยะเวลา 9 ปี / 108 เดือน / 3287 วัน / 78,840 ชม.
4,730,400 นาที

ส่วนประกอบที่สำคัญ 

1. การเป็นตัวของตัวเอง 

2. การมีระเบียบวินัย ในตัวเอง 

3. ความรับผิดชอบ ต่อตัวเอง




















  • เลี้ยงตามที่เขาต้องการ          จะเป็น
    ไม่ว่า เขาจะโตขึ้นเป็นอะไร  ก็จะมาจากสิ่งที่เราสร้างให้แก่เขา
  • เลี้ยงตามที่เขา                         อยากจะเป็น
    ไม่ว่าเขาจะเป็นอะไร ก็จะมาจาก ที่เรากระทำต่อเขา
  • เลี้ยงตามที่เขา                         มีรอยยิ้ม
    ไม่ว่า จะร้องไห้อย่างไร ก็อยู่ที่เราสร้าง หัวใจเขาให้แกร่งเพียงใด
  • เลี้ยงตามที่เขา                         มีเสียงหัวเราะ
    ไม่ว่าจะหัวเราะ จากเรื่องใดๆ ก็อยู่ที่เราสอนให้เขามีมุมมองกับเรื่องต่างๆอย่างไร
  • เลี้ยงที่เขา                                 ทำเองได้ทุกอย่าง
    จะทำสิ่งต่างๆ ได้มากน้อยเพียงใด ก็อยู่ที่เราให้เขาทำเองมากน้องเพียงใด
  • เลี้ยงตามที่เขาจะต้อง             รู้จักทุกอย่างที่มีในโลก
    จะรู้หรือไม่ อยุ่ที่เรา แสวงหาข้อมูล ให้เขาได้เรียนรู้มากน้อยแค่ไหน
  • เลี้ยงตามที่เขาจะต้อง             ดูแลตัวเอง ได้ด้วยตัวเอง
    จะดูแล ปกป้อง ตัวเองได้หรือไม่ ก็อยู่ที่เราจะสอนให้เขาต้อสู้กับสิ่งต่างๆ ด้วยวิธีอะไร


ความเข้าใจ ในการพัฒนาอัจฉริยภาพ ของ สมองลูกน้อย
คลิป แนะนำการสอน ช็อท ต่อ ช็อท  คลิกที่นี่